พล.อ.วาเลรี ซาลุจนี ผู้บังคับบัญชาทหารสูงสุด ผู้กุมอำนาจเต็มของยูเครน : ผู้ผลิตทหารชนิดใหม่

ยูเครน เป็นประเทศหนึ่งในยุโรปตะวันออกเป็นประเทศที่มีพื้นที่สูงที่สุดเป็นชั้นที่ 2 ในยุโรปรองจากรัสเซีย ซึ่งยูเครนมีเขตแดนติดต่อทางทิศตะวันออกรวมทั้งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นอกนั้น ยังมีขอบเขตติดต่อกับเบลารุสทางทิศเหนือ ติดต่อกับประเทศโปแลนด์ สโลวาเกีย รวมทั้งฮังการีทางทิศตะวันตก ติดต่อกับโรมาเนียแล้วก็มอลโดวาทางทิศใต้ รวมทั้งมีแนวริมฝั่งถึงสมุทรอะซอฟแล้วก็สมุทรดำ ยูเครนมีพื้นที่ 603,628 ตารางกิโลเมตร มีสามัญชนโดยประมาณ 41.3 ล้านคน และก็เป็นประเทศที่มีมวลชนสูงที่สุดเป็นชั้นที่ 8 ในยุโรป เมืองหลวงแล้วก็เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเป็นกรุงเคียฟ ในทางประวัติศาสตร์เป็นที่ยอมรับกันว่า
กรุงเคียฟเป็นแหล่งกำเนิดของจักรวรรดิรัสเซียโดยรวม ยูเครนได้รับเอกราชภายหลังการล่มสลายของรัสเซียใน พุทธศักราช2534
การที่เนื้อหานี้พูดถึงผู้บังคับบัญชาทหารสูงสุดผู้มีอิทธิพลเต็มนั้น เพราะเหตุว่าสำหรับเมืองไทยนั้น
ผู้บังคับบัญชาทหารสูงสุดในทางข้อบังคับนับว่าเป็นผู้บัญชาการของผู้บังคับบัญชาเหล่าทัพต่างๆแม้กระนั้นในทางปฏิบัติไร้อำนาจคุมกำลัง และก็งบประมาณพอๆกับผู้บังคับบัญชาเหล่าทัพต่างๆเอาง่ายๆเป็นผู้บังคับบัญชาทหารสูงสุดมิได้มีอำนาจเท่าผู้บังคับบัญชาเหล่าทัพต่างๆนั่นเอง ซึ่งต่างจากประเทศยูเครน
ไหนๆก็อธิบายถึงการจัดตำแหน่งทหารกันรวมทั้งเลยจำเป็นต้องชี้แจงถึงองค์ประกอบกำลังพลของทหารด้วย ที่มีต้นแบบการจัดหน่วยพลเดินเท้าแบบคลาสสิกของอเมริกาเพื่อไม่ให้มีการงงมากเวลาพูดถึงที่มีความสำคัญในการรบรวมทั้งกลอุบายสำหรับการรบสำหรับเนื้อหานี้ถัดไป ดังต่อไปนี้ เป็น
1.กลุ่ม (squad) เป็นหน่วยเล็กที่สุด คนระหว่าง 9-12 นาย มีผู้สั่งการเป็น ผู้บังคับกลุ่ม หรือผู้กลุ่ม เป็นนายทหารประทวนตำแหน่งสิบเอก
2.หมวด (platoon) เป็นหน่วยระดับที่ถือว่าสูงขึ้นมา มี 3-4 กลุ่ม ผู้สั่งการเป็น ผู้บังคับหมวด นายทหารสัญญาบัตร หรือตำแหน่งร้อยตรี หรือร้อยโท
3.กองร้อย (company) มี 3-4 หมวด มีผู้สั่งการเป็น ผู้บังคับกองร้อย ตำแหน่งร้อยเอก
4.กองพัน (battalion) มี 3-4 กองร้อย มีผู้บัญชาการเป็น ผู้บังคับกองพัน หรือผู้พันตำแหน่งพันโท
5.กรม (regiment) มี 3-4 กองพัน มีหัวหน้าเป็น ผู้บังคับบัญชากรม หรือผู้บังคับการตำแหน่งพันเอก
6.กองพลน้อย (brigade) เป็นหน่วยทหารขนาดใหญ่กว่ากรมแม้กระนั้นเล็กมากยิ่งกว่ากองพล อาจมีหลายกองพัน หรือมีกรม 1-2 กรมในบัญชาการ ผู้บังคับบัญชากองพลน้อยขั้นพลจัตวา
7.กองพล (division) เป็นหน่วยทหารที่มีกำลังตั้งแต่ 10,000 ถึง 20,000 นาย กองพลมักเป็นหน่วยผสมเหล่าเล็กที่สุดที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างอิสระ ผู้บังคับบัญชากองพลตำแหน่งพลตรี
8.กองทัพเป็นหน่วยทหารที่หน่วยสูงจากกองพลของพวกเราเป็นระดับกองทัพ มีหลายกองพลในสังกัด ผู้บังคับหน่วยของกองกองทัพก็เรียกแม่ทัพ แม่ทัพขั้นพลโท
มูลเหตุที่จะต้องเกริ่นสอนเบสิคมาเสียยืดยาวเนื่องจากว่าในทุกวันนี้ในทวีปยุโรปไม่มีผู้ใดที่มีประสบการณ์สำหรับในการจัดแจงกองทัพในสถานะการสู้รบเสมอกันพล.อ.วาเลรี ซาลุจนี ผู้บังคับบัญชาทหารสูงสุดของประเทศยูเครนอีกแล้ว เพราะเหตุว่าพล.อ. วาเลรี ซาลุจนี ผู้สูงวัย 49 ปี ได้อยู่ในสนามรบทำรบต้านการรุกรานของรัสเซียทางภาคทิศตะวันออกของยูเครนมาตั้งแต่ พุทธศักราช2557 จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ตลอด 8 ปีที่ล่วงเลยมานี้ พล.อ. วาเลรี ซาลุจนี ได้ฝึกหัดความเป็นทหารอาชีพตามแบบของหน่วยงานองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ซึ่งไม่เหมือนกับการทหารของอดีตกาลรัสเซียที่เขาเรียนมาจากสถานที่เรียนนายร้อยทหารราบ ที่เมืองโอเดสสา และก็ฝึกหัดมาทุกระดับตั้งแต่ผู้บังคับหมวด ผู้บังคับกองร้อย ผู้บังคับกองพัน จวบจนกระทั่งเขาก้าวขึ้นเป็นพันเอกตามหลักนิยมทางด้านการทหารของรัสเซียเดิมตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง
พันเอก วาเลรี ซาลุจนี ทำรบอยู่แนวหน้าทางด้านทิศตะวันออกของยูเครนตั้งแต่ พุทธศักราช2557 ที่รัสเซียบุกจู่โจมยูเครนเพื่อเพิ่มเติมไครภรรยากับรัสเซีย รวมทั้งช่วยดินแดนทางด้านเขตแดนทิศตะวันออกของยูเครนปลีกตัวออกไปมีอิสรภาพ ปรากฏว่าทหารยูเครนสู้ทหารรัสเซียมิได้เลย แบบว่าแพ้ทุกสนามรบ ทำให้ทางการยูเครนได้ขอร้องจากหน่วยงานองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ และก็พันเอกวาเลรี ซาลุจนี ก็เข้าไปคลุกคลีศึกษาเล่าเรียนวิชาการทหารตามแบบขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ แล้วก็นำหลักนิยมทางด้านการทหารมาใช้แทนที่หลักนิยมของโซเวียตเดิม พร้อมด้วยวาเลรี
ซาลุจนี ก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นพลตรีใน พุทธศักราช2560 พลโทใน พุทธศักราช2564 แล้วก็พล.อ. และก็ตำแหน่ง
ผู้บังคับบัญชาทหารสูงสุดของประเทศยูเครนในมีนาคม พุทธศักราช2565 หยกๆนี้เอง
หลักนิยมของกองกองทัพรัสเซียในตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 มีดังนี้เป็น กองทัพโซเวียตมีระบบระเบียบออกคำสั่งแบบสั่งจากบนลงด้านล่าง ศูนย์รวมศูนย์มากมาย ซึ่งทำให้การกระทำการชักช้ามากมาย ทำให้ผู้บังคับบัญชารบ บรรดานายทหารชั้นนายพลทั้งหลายแหล่จะต้องตั้งศูนย์บัญชาการใกล้สนามรบเพื่อสั่งอย่างใกล้ชิด เป็นการสร้างขวัญแรงใจให้ทหารแนวหน้า เนื่องจากว่าทหารระดับนายเข้ามาร่วมเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายด้วย ซึ่งต่างกันกับหลักนิยมทางด้านการทหารของหน่วยงานองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือที่มีอเมริกาเป็นหัวหน้าที่ศูนย์บัญชาการอยู่ในที่ปลอดภัยห่างจากสนามรบ แต่ว่ามีการกระจายอิทธิพลสำหรับเพื่อการสั่งกับนายทหารสัญญาบัตรขั้นร้อยตรีขึ้นไป และยังรวมไปถึงนายทหารประทวน ตำแหน่งนายสิบก็มีอำนาจตกลงใจแทนนายทหารสัญญาบัตรได้ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนสำหรับเพื่อการรบ จะมองเห็นได้จากความกล้าหาญที่ทหารตำแหน่งเล็กๆของกองกองทัพอเมริกันหาทางแก้ไขปัญหาในสนามรบได้เองจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จนกระทั่งการสู้รบยุคสมัยใหม่
หลักนิยมทางการรบที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งเป็น การส่งกำลังบำรุงซึ่งการทหารแบบอเมริกันเน้นย้ำก็คือเรื่องระบบการขนส่งกำลังบำรุง ที่จะจำเป็นต้องจัดการอย่างมีคุณภาพ เพื่อทหารได้รับอาวุธ ลูกกระสุน เสบียงกรัง กำลังหนุน แล้วก็การส่งตัวกลับไปรักษาข้างหลังเจ็บในสนามรบอย่างทันเวลา สมกับคำพูดที่ว่า “กองทัพจะต้องเดินด้วยท้อง”
ขอรับ ! จากความเคลื่อนไหวหลักนิยมทางด้านการทหารอย่างขุดรากถอนโคนของยูเครนนี้เองที่ทำให้นายทหารระดับแม่ทัพรวมทั้งนายพลของรัสเซียจำเป็นต้องเสียชีวิตลงไม่น้อยเลยทีเดียว และก็ทำให้ยูเครนสามารถจนถึงกองทัพรัสเซียเอาไว้อยู่ มิหนำซ้ำยังสามารถตีโต้ยึดดินแดนคืนกลับได้อย่างน่ายกยออีกด้วย

โกวิท ตระกูลสุรวัฒน์