จากกรณี พล.ตำบลท.จิรโลก ปัญญาอำนาจ ผบช.กรัมสั่งให้ พล.ตำบลต.มนตรี เทศขัน ผบกรัมเปรียญ พร้อมชุดทำการพิเศษ “หนุมาน กองปราบ” เปิดกระทำการ “ทลายโครงข่ายค้าอาวุธปืนระหว่างชาติ เบล 1,000 กระบอก” ตรวจหาจุดมุ่งหมาย 21 จุด 16 หมายจับ ในกรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดอุดรธานี และก็จังหวัดเชียงใหม่ เจอเงินทุนหมุนเวียนกว่า 150 ล้านบาท
ทลายโครงข่ายค้าปืนระหว่างชาติ ‘เบล 1,000 กระบอก’ ระดมตรวจหา 21 จุด 16 หมายจับ
เวลา 16.00 น. ที่กองกำกับการทำลายล้าง (บก.เปรียญ) พล.ตำบลอำเภอสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บังคับบัญชาตำรวจ พร้อมทั้ง พล.ตำบลท.จิรโลก ความฉลาดอำนาจวาสนา ผบช.กรัม พล.ตำบลต.มนตรี เทศขัน ผบกรัมเปรียญ พันตำรวจเอกเอนก เตานอบน้อม รอง ผบกรัมเปรียญ พันตำรวจเอกพัฒนา จิตโสภากุล ผู้กำกับการ3 บก.เปรียญ ร่วมแถลงผลกระทำการทลายโครงข่ายค้าอาวุธ เบล 1,000 กระบอก ข้างหลังมีการเปิดดำเนินการกระจัดกระจายกำลังเข้าตรวจหาจับกุมตัวผู้ต้องหากระบวนการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นได้ปริมาณ 17 คน พร้อมหลักฐาน รถยนต์ 6 คัน ที่พักปริมาณ 2 ข้างหลัง เรือ 5 ลํา อาวุธปืน จํานวน 17 กระบอก เครื่องลูกกระสุนขนาดต่างๆกว่า 10,000 นัดหมาย ใบ เปรียญ3 จํานวน 36 ใบ ใบ เปรียญ4 จํานวน 490 ใบ และก็สมุดบัญชีแบงค์ต่างๆ28 เล่ม
สำหรับผู้ต้องหาทั้งยัง 17 ราย ที่โดนจับจับตัวมานั้น พื้นฐานเจอเป็นผู้ต้องหาสำคัญปริมาณ 5 คน มี นายดนุพล ยงวงศ์ อายุ 32 ปี หรือเบล แสมสาร หรือเบล 1,000 กระบอก โดยจับตัวเหมาะบ้านเลขที่ 143/22 หมู่บ้านกองทัพเรือเฮาส์ 43 กลุ่ม 4 พลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี , นายป่าดงพล รุจิธรรมธัช อายุ 49 ปี นายอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยจับตัวถึงที่กะไว้ที่พักใน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี , นายสาวิตร เจียมจิระ อายุ 60 ปี อดีตกาลนายอำเภอไทรโยค จังหวัดจังหวัดกาญจนบุรี โดยจับตัวได้ในพื้นที่ จังหวัดจังหวัดบุรีรัมย์, นางสาวแขนณิศ เป๋าทุ้ย อายุ 52 ปี ข้าราชการอำเภอไทรโยค แล้วก็ นายญาณบารมี ใหม่สะอาด อายุ 31 ปี ข้าราชการสมัครใจ ที่ปฏิบัติภารกิจเก็บรวบรวมรายนามคนขอเอกสารสิทธิ์ โดยจับตัวได้ในพื้นที่ อำเภอไทรโยค จังหวัดจังหวัดกาญจนบุรี
พันตำรวจเอกความเจริญรุ่งเรืองพูดว่า สืบไปจากช่วงวันที่ 23 เดือนมิถุนายน 2563 ตํารวจ กิโลกรัมตำรวจตระเวณชายแดน34 แล้วก็ทหาร ได้จับขั้นตอนค้าอาวุธการทำศึก พร้อมหลักฐานอาวุธปืนการทำศึก 25 กระบอก, เครื่องลูกปืนมายากล และก็ระเบิดปาฆ่า จํานวนหลายรายการ รวมทั้งวันที่ 30 เดือนกรกฎาคม 2564 ข้าราชการศุลกากรจังหวัดหนองคาย ได้ทําการตรวจยึดอาวุธปืน ขนาด .22 จํานวน 35 กระบอก ก็เลยขยายผลพิจารณาก่อนพบว่า ได้ตระเตรียมนำไปส่งขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีนายดนุพล เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงทั้งคู่คดี ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตำรวจ) ก็เลยออกคำสั่งให้รีบจัดการสืบสาวขยายผลบ่อยมาเพื่อทำลายโครงข่ายดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว
พันตำรวจเอกพัฒนากล่าวอีกว่า สำหรับโครงข่ายดังที่กล่าวมาแล้วมีการทำกันเป็นขั้นตอน มีการวางแผนทํางานในลักษณะกรุ๊ปผู้กระทำผิดกฎหมาย แบ่งภาระหน้าที่กันทำเด่นชัด อาทิเช่น 1.กรุ๊ปนักลงทุน, 2.กรุ๊ปนายดนุพล ซึ่งมีบทบาทหาคนทําใบ เปรียญ3 รวมทั้งขนส่งอาวุธ, 3.กรุ๊ปเจ้าหน้าที่รัฐที่มีความเกี่ยวข้องสำหรับการปฏิบัติภารกิจผลิใบอนุญาต แล้วก็ 4.กรุ๊ปร้านค้าปืน นอกนั้น ยังเจอหลักฐานสําคัญ ว่าขั้นตอนนี้มีแผนในการประทุษกรรมนำชื่อบุคคลอื่น หรือคนภายในกระบวนการมาขอใบอนุมัติซื้ออาวุธปืน (เปรียญ3) ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วก็พบว่ามีการขอใบ เปรียญ3 มากยิ่งกว่า 2,000 ใบ ประกอบไปด้วย อาวุธปืนลูกซอง ขนาด .22 รวมทั้งอาวุธปืนสั้นสั้นขนาด 9 มิลลิเมตร ซึ่งแต่เดิม นายดนุพล จะมีสมญานาม “เบล ร้อยกระบอก” แต่ว่าเมื่อตรวจสอบแล้วก็พบว่าเคยสามารถทำใบอนุมัติได้กว่า 2,000 กระบอก ก็เลยแปลงสมญานามเป็น “เบล พันกระบอก”
“โดยบุคคลที่มาขอผลิใบ เปรียญ3 ส่วนมากมีการกระทำที่ไม่หวาดหวั่นต่อข้อบังคับ กล่าวถึงว่าขอมาใช้สำหรับการกีฬา เล็กน้อยไม่รู้จักถึงต้นเหตุสำหรับในการยื่นคําวิงวอนใบ เปรียญ3 โดยมีข้าราชการของเมืองที่เกี่ยวโยงกับการออกใบอนุมัติให้ซื้ออาวุธปืนแบบ เปรียญ3 ร่วมดําเนินการ เลียนแบบเอกสารและก็ผลิใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน (แบบ เปรียญ3) ซึ่งเป็นเอกสารเท็จให้ เมื่อได้รับใบอนุมัติซื้ออาวุธปืนซึ่งเป็นเอกสารเท็จแล้ว กรุ๊ปกรรมวิธีดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นก็จะทําการซื้ออาวุธปืนที่ร้านค้าจําหน่ายอาวุธปืน แล้วต่อจากนั้นส่งอาวุธปืนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ยิ่งกว่านั้น ยังมั่นใจว่ามีการจําหน่ายในตลาดมืดภายในประเทศด้วย จากการตรวจดู พบว่ากรุ๊ปขั้นตอนดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วจะได้กําไรจากการจําหน่ายอาวุธปืนกระบอกละ 30,000–50,000 บาท เมื่อวิเคราะห์ทางการคลัง ยังเจอเงินทุนหมุนเวียนในกระบวนการมากยิ่งกว่า 150 ล้านบาท” พันตำรวจเอกพัฒนากล่าว
พันตำรวจเอกความเจริญรุ่งเรืองกล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งยัง 17 คน ส่วนมากให้การสารภาพ มีเพียงแค่เล็กน้อยที่ยังคงยืนกรานไม่ยอมรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายดนุพล ที่ในชั้นสอบปากคำให้การไม่ยอมรับ และไม่ขอให้การอะไรก็ตามในชั้นจับ แม้กระนั้น ภายหลังจากนี้ทางข้าราชการจะยังคงปฏิบัติการสืบสวนขยายผลสม่ำเสมอ เพื่อเอาผิดคนที่มีความเกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งปวง แต่ มั่นใจว่าต้นตอสำคัญของวิธีการดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วได้โดนจับจับหมดแล้ว ไม่น่าจะมีตัวการใหญ่มากยิ่งกว่านี้อีก
ด้าน พล.ตำบลท.จิรโลกบอกว่า ผลจากความประพฤติของกระบวนการดังที่กล่าวถึงมาแล้ว นำมาซึ่งการทำให้ในตอนนี้กรุ๊ปผู้กระทำผิดกฎหมายสามารถหาอาวุธปืนโหดร้าย หรืออาวุธการรบ มาถือครองกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งการกวาดล้างจับตัวคราวนี้ก็เลยราวกับเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมให้ลดลง และก็ภายหลังจากนี้จะยังคงรีบปฏิบัติงานขยายผลตลอดว่าปืนหยาบคาย และก็ปืนผลประโยชน์กลุ่มนี้มีที่มาที่ไปยังไง แล้วก็ยังมีข้าราชการรายอื่นเกี่ยวเนื่องหรือมีส่วนรู้เหตุการณ์เพิ่มด้วยอีกไหม แล้วก็แม้พบว่าผู้ใดกันแน่ไม่ถูกหรือเกี่ยวโยงจำเป็นที่จะต้องถูกฟ้องร้องคดีโดยไม่มีข้อละเว้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐส่วนไหนก็ตาม
ด้าน พล.ตำบลอำเภอสุวัฒน์บอกว่า สำหรับปฏิบัติงานคราวนี้ทางตำรวจยังได้ผสานความร่วมแรงร่วมมือกับทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำหรับในการพิจารณาทางการคลัง จนกระทั่งสามารถตามยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากความประพฤติปฏิบัติความผิดพลาดรวมกว่า 50 ล้านบาท ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่มีความเกี่ยวข้องกับกรรมวิธีดังที่กล่าวถึงแล้วสำหรับในการผลิใบอนุญาต ใบ เปรียญ3 ที่โดนจับจับในวันนี้ แบ่งเป็น นายอำเภอที่ยังอยู่ในราชการ 1 คน แล้วก็ปลดเกษียณราชการ 1 คน และก็แม้ขยายผลเพิ่มอีกพบว่ายังมีเจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยใดเกี่ยว รับรองว่าจะฟ้องร้องคดีโดยไม่มีข้องดเว้น
จับนายอำเภอ ร่วมกลุ่ม ‘เบล 1000’ ค้าปืนระหว่างชาติ เจอส่วนมากปืนผลประโยชน์ ขยายผลอีก 2 ที่ เง…
